วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

รูปแบบของ Present Perfect Tense

รูปแบบของ Present Perfect Tense

 
Subject + has/have + Verb3
 
 

หลักการใช้ Present Perfect Tense

 
  1. ใช้กับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินต่อเนื่องมายังปัจจุบัน และมีแนวโน้นที่จะดำเนินต่อไปได้อีกในอนาคต เช่น

    I have had a lot of toys.
    ฉันมีของเล่นมากมาย (และอาจจะมีของเล่นเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต)

  2. ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังส่งผลมายังปัจจุบัน เช่น

    It has stopped raining.
    ฝนหยุดตกแล้ว (แต่ถนนยังเปียกอยู่)

  3. ใช้พูดถึง เหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆกัน ในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างอดีตและปัจจุบัน โดยมักใช้คำว่า many/several times, a lot of times, …times, again and again, over and over และอื่นๆ เช่น

    I’ve read this book more than 3 times. (ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้มามากกว่าสามรอบแล้ว)

  4. ใช้กับเหตุการณ์ที่ เพิ่งสิ้นสุดลง โดยไม่ระบุเวลา ซึ่งมักใช้กับ just, already และ yet

  • yet มักใช้ในประโยคปฏิเสธ ส่วน just และ already นั้น มักจะใช้กันในประโยคบอกเล่า โดยวางไว้อยู่หน้ากริยาหลัก เช่น

I haven’t finished my homework yet. (ฉันยังทำการบ้านของฉันไม่เสร็จเลย)

I have just finished my home work. (ฉันเพิ่งทำการบ้านของฉันเสร็จ)

I’ve already finished my homework. (ฉันทำการบ้านของฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว)
 
  • หากเราระบุเวลาลงไป ประโยคจะต้องใช้ Past Simple Tense เท่านั้น ไม่สามารถใช้ Present Perfect Tense ได้ เช่น

I finished my homework at 7 o’clock. (ฉันทำการบ้านเสร็จแล้วตอนเจ็ดโมงเช้า)

  1. ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งมักใช้กับ just, recently, lately และอื่นๆ

    The meeting has just started. (การประชุมเพิ่งจะเริ่มขึ้น)

    Have you seen him lately? (คุณได้เจอเขาเมื่อเร็วๆนี้บ้างไหม)

  1. ใช้กับ since (ตั้งแต่) และ for (เป็นเวลา)
    I have been here since I was about 15 years old.
    ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 15 (ปัจจุบันฉันก็ยังคงอยู่ที่นี่)

    I have had a fever for almost a week.
    ฉันเป็นไข้มาประมาณอาทิตย์หนึ่งได้แล้ว (ปัจจุบันฉันก็ยังคงเป็นไข้อยู่เช่นเดิม)

วิธีการสร้างประโยค Present Perfect Tense

 
ครงสร้าง
Subject + has/have + Verb 3
ประโยคบอกเล่า
I / You / We / They have talked to her.
He / She / It has slept on the couch.
โครงสร้าง
Subject + has/have + not + Verb 3
ประโยคปฏิเสธ
I / You / We / They have not talked to her.
He / She / It has not slept on the couch.
โครงสร้าง
Has/Have + Subject + Verb 3?
ประโยคคำถาม
Have I / you / we / they talked to her?
Has he / she / it slept on the couch?
โครงสร้าง
Who/What/Where/When/Why/How + has/have + Verb 3?
ประโยคคำถาม
Wh-
Who
have I / you / we / they talked to?
Where
has he / she / it slept?
*คำปฏิเสธรูปย่อของ has/have not คือ hasn’t และ haven’t

1 ความคิดเห็น:

  1. คุณวิครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่สับสนกับพวก Tense มากๆ มันเหมือนกันเรียนแล้วให้จำ ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเลย เพราะคิดว่า ภาษา มันไม่ควรต้องจำ มันควรเป็นอะไรที่ สื่อได้ทันที

    ยกตัวอย่าง Present Perfect Tense นี้ อยากทราบว่า ทำไมต้องเป็น Present และทำไม ต้องเป็น Perfect ครับ คือ ถ้าให้ผมแปลแบบบ้านๆ ก็จะดึงไปว่า เป็น กาลที่บอกว่า เป็นเวลาปัจจุบันที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งผมเองก็ยังงง ว่า มันสมบูรณ์แบบยังไง

    ยกตัวอย่าง ฉันมีของเล่นมากมาย ผมก็จะตีว่า I have a lot of toys ซึ่งมันก็สื่อความหมายว่า ฉันมีของเล่นมากมาย ทำไมเราต้องไปบอกว่า ในอดีตฉันมีของเล่นมากมาย จนปัจจุบันฉันก็มีของเล่นมากมาย และฉันจะมีมากมายยิ่งขึ้นในอนาคต ผม งง ว่า ทำไมมันซับซ้อนจัง คือ เราไปคิดแทนอนาคตได้ยังไงว่า เราจะมีของเล่นอีกมากมายในอนาคต บางทีหลังจากที่พูดจบประโยคนี้ เราอาจจะยกของเล่นให้คนอื่นไปเลยก็ได้

    นี่คือสิ่งที่ผมสงสัยครับ

    ตอบลบ